ถ้าให้นึกถึงใครที่สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในลีกอังกฤษที่ผ่านมานั้นคงมีไม่กี่คน แต่ที่เด่นมากแถมยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมและกลายเป็นนักเตะที่ต้องแบกทีมตลอดทั้งฤดูกาลจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอแดน อาซาร์ที่กลายเป็นนักเตะระดับโลก และทำให้กองหลังหลายทีมยอมรับว่าเขาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวมากมีความอันตรายมากในกรอบเขตโทษ ซึ่งเขาได้ขออำลาทีมเก่าอย่างเชสซี ไปอยู่กับราชันชุดขาดเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวอยู่ที่ 115 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะอีกคนใหม่ในการคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งการดึงตัวมาครั้งนี้น่าจะมาทดแทนตำแหน่งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายไปอยู่กับยูเวนตุส
ถือว่าเป็นการสืบทอดตำแหน่งที่ดูจะลงตัวของทีมราชันชุดขาวอย่างมาก เกียรติยศที่เขาได้ทำเอาไว้กับต้นสังกัดเก่าคือ แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง, แชมป์ ยูโรปาลีก 2 ครั้ง, เอฟเอ คัพและลีกคัพ อย่างละ 1 ครั้ง, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2014-15 โดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เขาสร้างโอกาสในการทำประตู 595 ครั้งด้วยกัน หาจังหวะทำประตูอยู่ที่ 1,441 ครั้ง เลี้ยงบอลมากสุดอยู่ที่ 909 ครั้ง โดนทำฟาวล์อยู่ที่ 638 ครั้ง ทำประตูไป 110 ประตู แอสซิสต์ไป 81 ครั้ง ฤดูล่าสุดทำประตูไปได้ 16 ประตู แอสซิสต์ 15 ครั้ง ถือว่าเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับนักเตะชาวเบลเยียม เขายกระดับตัวเองได้จนเป็นนักเตะระดับเกรดเอบวกอย่างเต็มตัว และผ่านการทำงานกับโค้ชฝีมือดีหลายคนด้วยกันไม่ว่าจะเป็น โชเซ่ มูรินโญ่, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, อันโตนีโอ คอนเต้, และล่าสุดคือ ซาร์รี ไม่ว่าจะถูกจัดให้ไปยืนตำแหน่งไหนก็สามารถเล่นได้หมด เช่น ปีก, หน้าต่ำ, หน้าเป้า ถือว่าเขาเป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องเลยก็ว่าได้ การย้ายครั้งนี้อาซาร์จะได้สวมใส่เสื้อหมายเลข 7 ในการลงสนามให้กับทีมราชันชุดขาว แน่นอนว่าการที่เชสซีขาดผู้เล่นตัวเก่งไปย่อมทำให้ทีมเสียสมดุลอย่างมาก โดยเฉพาะเกมรุกที่ในปัจจุบันก็มีแต่อาซาร์ที่ทำได้โดดเด่นที่สุด ถ้าให้มองอีกด้านคือการขาดไปของเขาน่าจะทำให้ทีมมีการเล่นที่ไม่พึ่งพานักเตะคนเดียวมากจนเกินไป หรือเรียกอีกอย่างว่าบอลมิติเดียวนั้นเอง แล้วใครที่จะมาทดแทนเขาได้อันนั้นเป็นสิ่งที่ผู้จัดการทีมอย่างเมารีซีโอ ซาร์รีจะต้องทำการแก้ไขให้เร็วที่สุดเพราะอย่าลืมว่าแชมป์ยูโรป้าไม่ได้เป็นที่พอใจกับผู้บริหารสโมสรอย่างแน่นอน